หมวดหมู่
อื่นๆ

การตรวจคัดกรองภาวะสุขภาพแบบ Real-time (Electro Interstitial Scan)

Pre-Screening

ศูนย์การแพทย์บูรณาการ โนวาวิด้า Anti Aging Center เรานำเอาเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ล้ำสมัยจากประเทศชั้นนำอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ชื่อว่า Electro Interstitial Scan (EIS) มาทำการตรวจคัดกรองรายละเอียดการทำงานของเซลล์ในแต่ละอวัยวะ ซึ่งจะทำให้ทราบว่าในขณะที่ตรวจมีอวัยวะใดบ้างที่ผิดปกติ รวมทั้งบอกระดับความเสื่อมของร่างกาย และแนวโน้มของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แม้ในขณะนั้นยังไม่มีอาการของโรคปรากฏให้เห็นเลยก็ตาม

หลักการทำงาน

เทคโนโลยี Electro Interstitial Scan (EIS) ใช้หลักการ Bio Feedback ด้วยวิธีการส่งผ่านกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ เข้าสู่ร่างกายเพื่อวัดค่าความต้านทานของน้ำที่อยู่ระหว่างเซลล์ในทุก ๆ เซลล์ หากเซลล์หรืออวัยวะทำงานผิดปกติหรือมีสารชีวเคมีไม่สมดุลสัญญาณไฟฟ้าจะตอบสนองแตกต่างกัน ในการเข้ารับการตรวจจะใช้เวลาเพียง 3-5 นาทีในการสแกนทั้งร่างกาย แล้วคอมพิวเตอร์จะประมวลผลการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาเบื้องต้นของคนไข้ได้ทันทีทำให้ทราบว่าในขณะที่ตรวจมีอวัยวะใดบ้างที่ผิดปกติ รวมทั้งบอกระดับความเสื่อมของร่างกายและแนวโน้มของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การตรวจด้วย Electro Interstitial Scan (EIS) 1 ครั้ง สามารถสแกนได้ครอบคลุมทุกระบบของร่างกาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทีละส่วน ไม่มีผลข้างเคียงที่เกิดจากการตรวจ

เครื่อง EIS จะช่วยคุณด้านใดบ้าง

ศูนย์การแพทย์บูรณาการ โนวาวิด้า Anti Aging Center จึงนำเอาเทคโนโลยี Electro Interstitial Scan (EIS) มาใช้ในการวิฉนิจฉัยและวางแผนป้องกันการเกิดโรค ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมของเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) เพราะสามารถประเมินความเสื่อมของเซลล์ หรือบ่งชี้พยาธิสภาพของอวัยวะภายในได้มากถึง 37 อวัยวะ 9 ระบบ ประกอบด้วยดังนี้

Cardiovascular Functions
Endocrine Functions
Urogenital and Renal Functions
Neuromuscular Functions
Respiratory Functions
Digestive Functions
Neurologic Functions
General Metabolic Functions
Immune Functions
Previous
Next

การประเมินด้วย Electro Interstitial Scan (EIS)

การตรวจวัดด้วย Electro Interstitial Scan (EIS) แบ่งผลการประเมินออกเป็น 5 ระดับความเสี่ยง ในรูปกราฟแท่ง 5 สี ได้แก่ สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน สีฟ้า และสีเขียว บ่งบอกแนวโน้มในการเกิดปัญหาจากระดับสูงสุดไปหาระดับเล็กน้อย เริ่มจาก Risk I ไป Risk V

Risk I : แท่งสีแดง

หมายถึง ในตำแหน่งหรือระบบนั้น ตรวจพบสภาวะที่มีความเสื่อม และการทำงานที่ผิดปกติไปจากเดิมมาก ซึ่งควรได้รับการดูแลอย่างเร็วที่สุด

Risk II : แท่งสีเหลือง

หมายถึง ในตำแหน่งหรือระบบนั้น ตรวจพบสภาวะความเสื่อมและการทำงานที่ผิดปกติ มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในระดับรองลงมาหรือระดับที่ 2

Risk III : แท่งสีน้ำเงิน

หมายถึง ในตำแหน่งหรือระบบนั้น ตรวจพบสภาวะที่มีความเสื่อมและการทำงานที่เบี่ยงเบนไปจากภาวะปกติในระดับปานกลาง หรือระดับ 3

Risk IV : แท่งสีฟ้า

หมายถึง ในตำแหน่งหรือระบบนั้น ตรวจพบสภาวะที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในระดับที่ 4

Risk V : แท่งสีเขียว

หมายถึง ในตำแหน่งหรือระบบนั้น ตรวจพบสภาวะที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาในระดับที่ 5

ข้อดีในการตรวจสุขภาพด้วยระบบ EIS

  1. เป็นการตรวจเพื่อคัดกรองรายละเอียดการทำงานของเซลล์ในแต่ละอวัยวะอย่างครบถ้วน ครอบคลุมทุกระบบของร่างกาย

  2. ช่วยในการวางแผนการดูแลสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม โดยให้แนวทางในการป้องกันการเกิดโรค

  3. ให้สัญญาณเตือนถึงความผิดปกติของร่างกาย เพื่อบำบัดรักษาได้ทันท่วงที

  4. แนะนำอาหารที่ควรรับประทาน และควรหลีกเลี่ยง

  5. ไม่ต้องเจาะเลือด

  6. ไม่มีผลข้างเคียง (Side Effect) ที่เกิดจากการตรวจ

  7. เหมาะสำหรับผู้ที่รักสุขภาพทุกท่าน

การเตรียมตัวก่อนตรวจ EIS

  1. ถอดเครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิด

  2. ขณะตรวจ คนไข้ต้องนั่งนิ่งๆ ไม่พูดคุยหรือขยับร่างกาย

  3. งดใช้โทรศัพท์ และอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ทุกชนิด

EIS ควรตรวจบ่อยแค่ไหน

ตรวจได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ เพราะปราศจากผลข้างเคียงใด ๆ  แนะนำให้ตรวจทุก 6 เดือน

ข้อควรระวัง

ผู้ที่ควรระวังในการตรวจด้วย EIS คือ ผู้ที่ตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโลหะหรือมีเครื่องอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ