การรักษามะเร็งด้วย Natural Killer Cells (NK Cells)

เซลล์เพชรฆาต ภูมิคุ้มกันบำบัดแบบไม่กำหนดเป้าหมาย
เซลล์เพชรฆาต (NK cells) เป็นเซลล์ที่เกิดขึ้นภายในไขกระดูก และเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีความสำคัญ ทำหน้าที่ตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าเมื่อเซลล์ NK cells ตรวจพบสิ่งแปลกปลอมหรือเซลล์ที่ผิดปกติภายในร่างกาย จะทำการทำลายสิ่งแปลกปลอม หรือเซลล์ที่ผิดปกติทันที ดังนั้นเซลล์ NK cells สามารถฆ่าเซลล์ที่กลายพันธุ์ สิ่งแปลกปลอม เช่น แบคทีเรีย รา และเซลล์ที่ติดไวรัสได้ ถ้าคนไข้มีอาการติดเชื้อ หรือป่วยบ่อย เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า NK Cells ของบุคคลนี้มีน้อยและประสิทธิภาพการทำงานไม่ดี จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเขาไม่สามารถต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย
NK Cells เป็นระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
สาเหตุที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ?
โรคต่างๆที่เกิดขึ้นในร่างกาย ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันโดยตรง และมีหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ลง
- พักผ่อนไม่เพียงพอ หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำ เราจะอยู่ภายใต้ความเครียดและจะทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล สิ่งนี้จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราอ่อนแอลงและเพิ่มความเสี่ยงในการป่วยหรือติดเชื้อ
- ขาดการออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ดีในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายของเราผลิตสารเคมีที่ดี ที่เสริมร่างกายของเราและเพิ่มภูมิคุ้มกันของเรา ในทางกลับกัน หากเราขาดการออกกำลังกาย ระบบภูมิคุ้มกันของเราก็จะอ่อนแอลง
- การบริโภคอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานน้ำตาล อาหารปิ้งย่าง อาหารหมักดอง และอาหารขยะมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายของเราขาดแร่ธาตุและวิตามินบางชนิดที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- ความเครียดเรื้อรัง เมื่อร่างกายมีความเครียดเรื้อรัง ฮอร์โมนความเครียดจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง และทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของเซลล์ NK ลดลงเมื่ออายุของเราเพิ่มขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของมะเร็ง
จากการศึกษายังพบว่าในผู้สูงอายุ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่บั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ NK ด้วยเช่นกัน
โดยปกติ ร่างกายมนุษย์มี NK Cell ประมาณ 2,000-5,000 ล้านเซลล์ เมื่อเซลล์หรือสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย NK cell จะสามารถตรวจสอบได้ทันที และสร้างปฏิกิริยาลูกโซ่สองประเภทเพื่อต่อสู้กับสารแปลกปลอมเหล่านั้น
- กระบวนการของ NK Cells ที่เกี่ยวข้องกับเซลล์แปลกปลอมโดยตรงเรียกว่า Cytotoxicity สารนี้อาศัยการตรวจจับโดยตรง (การสัมผัสระหว่างเซลล์-เซลล์)
- สารเคมีจาก NK cell (Cytokine) จะถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเซลล์อื่นๆในระบบภูมิคุ้มกัน ตัวอย่างเช่น Cytokine สามารถกระตุ้นทีเซลล์ (T-cell) ในระบบภูมิคุ้มกันเพื่อกำจัดสารแปลกปลอมและป้องกันการเกิดมะเร็งและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
เราสามารถตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของ NK cell จากเลือด ในการตรวจสอบจำนวนเซลล์ NK เราเรียกว่า NK Count ในขณะที่เพื่อตรวจสอบคุณภาพของเซลล์ NK เราเรียกว่า NK Activity
เราจะตรวจนับจำนวนและความสามารถของ NK cell ในการฆ่าเซลล์มะเร็งได้อย่างไร
ปัจจุบัน หนึ่งในวิธีการนับเซลล์ NK ที่แม่นยำและเร็วที่สุดคือการใช้ Flow Cytometry หรือการวิเคราะห์เซลล์ด้วยเลเซอร์
ตัวอย่าง NK activity report

NK activity จะแปลผลได้ 3 แบบ
- ระดับต่ำบ่งชี้ว่าประสิทธิภาพของเซลล์ภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อเนื้องอกหรือเซลล์ที่ติดเชื้อได้ต่ำ ซึ่งหมายความว่าระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยอ่อนแอและเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ
- ระดับปกติบ่งชี้ว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันอยู่ในช่วงสถานะปกติ ซึ่งหมายความว่า NK Cells ทำงานตามปกติเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง และทำให้เรามีสุขภาพดี
- ระดับสูงบ่งชี้ว่าเซลล์ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิผลสูงโดยมีการตอบสนองต่อเซลล์มะเร็งหรือเซลล์ที่ติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ NK activiy ระดับสูงมากเกิดนไปยังสามารถบ่งบอกถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการเกิดโรคหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์
NK Cells สามารถเพิ่มได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้:
สำหรับการเพิ่มจำนวนเซลล์ NK เราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยตัวเอง:
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักใบเขียว เนื้อสัตว์ และนมถั่วเหลือง
- เลิกสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- พักผ่อนให้เพียงพอ และ คลายเครียด
ผลกระทบของวิธีการดังกล่าวอาจขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเซลล์ คือสามารถเพาะเลี้ยง NK cell ในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้มั่นใจในปริมาณและคุณภาพของNK cell ปกติจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ เมื่อ NK Cells พร้อมแล้ว จะถูกฉีดกลับเข้าสู่ร่างกาย
กระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันด้วย NK Cells
- ผู้ป่วยได้รับการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เพื่อเตรียมแผนการรักษา
- จะมีการเก็บตัวอย่างเลือดจากผู้ป่วยเพื่อตรวจสอบปริมาณของเซลล์ NK (NK Count) และประสิทธิภาพของเซลล์ NK (NK Activity)
- NK Cells เพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อ (Clean Room Class 100) เพื่อเพิ่ม NK Count และ NK Activity
- เซลล์ NK จะถูกฉีดกลับเข้าสู่ร่างกายผ่านทางกระแสเลือดพร้อมการประเมินติดตามผล